Game Changer ตลาดหุ้นไทย สู่บทบาทเชื่อมโยงการลงทุนทุกสินทรัพย์

March 26, 2022 0 Comments

การมาของสินทรัพย์ดิจิทัลสร้างแรงกระเพื่อมให้กับสินทรัพย์ดั้งเดิมไปทั่วโลก และที่ผ่านมา ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลแสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และเป็นที่ยอมรับมากขึ้นทุกขณะ ในฐานะที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญของภาคตลาดทุนไทย จึงจำเป็นต้องมี game changer เพื่อก้าวให้ทันกระแสการลงทุนและระดมทุนในโลกใหม่นี้

โดย “ภากร ปีตธวัชชัย” กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้กล่าวถึงการปรับเปลี่ยนที่สำคัญนี้ไว้ในงานสัมมนาประชาชาติธุรกิจ “สินทรัพย์ดิจิทัล Game Changer เดิมพันเปลี่ยนอนาคต” เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา

ชูแพลตฟอร์มเชื่อมโยงลงทุน
โดย “ภากร” กล่าวว่า ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯเติบโตขึ้นมาเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในช่วงจากปี 2555-2565 มีมาร์เก็ตแคปเติบโตขึ้นจากระดับ 11.8 ล้านล้านบาท เป็น 20 ล้านล้านบาท ทำให้ยังเชื่อว่าในอนาคต ตลาดสินทรัพย์ดั้งเดิมคงจะไม่ได้หายไป จากการที่มีตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลเติบโตขึ้นมา กล่าวคือจะเป็นการเติบโตด้วยกันทั้ง 2 ตลาด

ปัจจุบันเริ่มเห็นบริษัทจดทะเบียนเข้าลงทุนและระดมทุนในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้นต่อเนื่อง ผ่าน digital asset security และหากเปรียบเทียบขนาดในตลาดสินทรัพย์ดั้งเดิมกับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล วันนี้พบว่า ตลาดตราสารหนี้ทั่วโลกยังมีขนาดใหญ่ประมาณ 119 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นมีขนาดประมาณ 123 ล้านล้านเหรียญ ส่วนตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลมีขนาด 1.79 ล้านล้านเหรียญ หรือเทียบกันแล้ว ประมาณ 1 ต่อ 100

แต่เวลานี้ ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ หากเปรียบเทียบมาร์เก็ตแคป ตลาดทุนดั้งเดิมที่มีประมาณ 60,000 หลักทรัพย์ มีมูลค่าการซื้อขายต่อวันอยู่ประมาณ 8.57 แสนล้านเหรียญ ส่วนตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลมีมูลค่าการซื้อขายต่อวันที่ 7.4 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี มีจำนวนเหรียญอยู่เกือบ 9,600 โทเค็น ทั้ง cryptocurrency, investment token และ utility token

ทั้งนี้ ตลท.จะกลายเป็น open platform ที่เปิดโอกาสให้เชื่อมโยงการลงทุนกับสินทรัพย์ดิจิทัล ผ่านการเป็นศูนย์ซื้อขายผลิตภัณฑ์การลงทุนที่มีสินทรัพย์อ้างอิงชัดเจน (investment token) และโทเค็นดิจิทัลเพื่อการใช้ประโยชน์ (utility token)

“เราเตรียมให้บริการทั้งการซื้อขายและการชำระราคา รวมถึงกระเป๋าเงินดิจิทัล ยิ่งไปกว่านั้น เราจะทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงให้ทุก cosystem ในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้ง exchange, token issuer สามารถเข้ามาต่อเชื่อมกันได้ผ่าน open API platform ของเรา ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวได้ในช่วงประมาณไตรมาส 3 ของปีนี้ หลังจาก ตลท.ได้จัดตั้งบริษัทแห่งใหม่ ชื่อว่า บริษัท ไทย ดิจิทัล เอ็กซ์เชนจ์ จำกัด (TDX) แล้ว”

ปั้นซูเปอร์แอปครบวงจร
สิ่งที่ ตลท.จะเสนอคือ จะมีแอปพลิเคชั่น Settrade หรือ Streaming ที่จะต่อเชื่อมสินทรัพย์ดั้งเดิมกับสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงทั้ง 2 ตลาดได้ และในอนาคตยังสามารถต่อเชื่อมกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ ต่อไปได้อีกด้วย

“เราหวังให้ Settrade เป็นซูเปอร์แอปในอนาคต เพราะในปัจจุบัน Streaming ให้บริการเกี่ยวกับสินทรัพย์ดั้งเดิม ทั้งหุ้น, กองทุนรวม, ETF, DR, DW และ TFEX อยู่แล้ว สิ่งที่เราต้องทำต่อ คือเชื่อมการให้บริการของทั้งตลาดสินทรัพย์ดั้งเดิมและตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านแอปเดียว อย่างมีประสิทธิภาพ”

ภัยไซเบอร์โจทย์ใหญ่
ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯกล่าวด้วยว่า ข้อดีของสินทรัพย์ดิจิทัลในวันนี้ คือ เป็นนวัตกรรมที่ทำให้สามารถลงทุนหรือระดมทุนได้ใน asset class ใหม่ ๆ ในวิธีใหม่ ๆ และยิ่งไปกว่านั้นคือ ความสามารถในการกระจายความเสี่ยงจะสูง ทำให้พอร์ตสามารถทนทานกับความผันผวนได้มาก

“การลงทุนหรือการระดมทุนของสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นสิ่งที่เรียกได้ว่า ‘democracy’ คือ เข้าถึงกลุ่มนักลงทุนได้ทุกประเภทผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ขณะเดียวกันการระดมทุนก็สามารถเข้าถึงกลุ่มนักลงทุนใหม่ ๆ ได้ จากที่ตลาดทุนดั้งเดิมในอดีตยังเข้าไม่ถึง แต่แน่นอนว่านวัตกรรมย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยง”

“ทั้งจากสภาพคล่องที่ไม่มาก ย่อมมีความผันผวนของราคาและปริมาณการซื้อขายที่สูง รวมทั้งกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ยังไม่ชัดเจน หน่วยงานกำกับยังจำเป็นต้องมีกฎเกณฑ์ใหม่ ๆ ออกมาต่อเนื่อง และที่สำคัญกว่านั้นคือ การยืนยันตัวตนและภัยทางไซเบอร์” กรรมการและผู้จัดการ ตลท.กล่าว

หลังจากนี้ คงต้องติดตาม game changer ของ ตลท. ในการเข้าสู่ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ว่าเป้าหมายที่จะผลักดันให้เติบโตควบคู่ไปกับตลาดทุนแบบดั้งเดิม จะทำได้มากน้อยแค่ไหน น่าสนใจเลยทีเดียว

อ้างอิง
https://www.prachachat.net/finance